ดื่มกาแฟอย่างไรให้ได้ประโยชน์ ไม่เป็นโทษต่อร่างกาย

บทความประจำวัน วันนี้เสนอเรื่อง “ดื่มกาแฟอย่างไรให้ได้ประโยชน์ ไม่เป็นโทษต่อร่างกาย” ท่านผู้ฟังครับ/คะ คาเฟอีนในกาแฟนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย เพราะการดื่มกาแฟมากเกินไปอาจรบกวนการนอนหลับในตอนกลางคืน รวมไปถึงอาการติดคาเฟอีนที่อาจทำให้ปวดหัว มือสั่น และมีอาการข้างเคียงอื่นๆ เมื่อขาดกาแฟได้ แต่หากมีวิธีการดื่มกาแฟและปริมาณในการดื่มที่เหมาะสม อาจทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากกาแฟได้อย่างเต็มที่ ดังนี้ ครับ/ค่ะ 1.สังเกตอาการของตัวเองหลังดื่มกาแฟ ว่าสามารถดื่มกาแฟได้กี่แก้วโดยที่ไม่รู้สึกถึงฤทธิ์ของคาเฟอีนมากเกินไปจนทำให้ใจสั่น มือสั่น หรือนอนไม่หลับ ก็จะทราบปริมาณที่เหมาะสมในการดื่มกาแฟต่อวันของตนเอง ซึ่งในแต่ละคนมีปริมาณที่ร่างกายทนต่อคาเฟอีนได้ในปริมาณที่แตกต่างกัน รวมถึงชนิดของกาแฟ ความเข้ม ความจางของกาแฟด้วย 2.เลือกดื่มกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล ส่วนใหญ่ที่ดื่มกาแฟแล้วอ้วนขึ้นอาจเป็นเพราะน้ำตาลที่มากับกาแฟ หากติดกาแฟ และต้องการประโยชน์จากคาเฟอีน ควรเลือกกาแฟดำหรืออเมริกาโน เพื่อให้ได้รสชาติและประโยชน์จากกาแฟล้วนๆ 3.ไม่ดื่มกาแฟจนรบกวนการนอนหลับพักผ่อน ปัญหาใหญ่สำหรับคนที่ชอบดื่มกาแฟ คือการดื่มกาแฟในปริมาณหรือช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม เช่น ดื่มกาแฟในช่วงเย็น ที่ทำให้ฤทธิ์ของคาเฟอีนเข้าไปรบกวนการนอนหลับ ทำให้นอนไม่หลับได้ ดังนั้นควรงดดื่มกาแฟในช่วงหลัง 16.00-18.00 น.เป็นต้นไป 4.ไม่ดื่มกาแฟขณะท้องว่าง เนื่องจากการดื่มกาแฟในขณะที่ท้องว่าง อาจเข้าไปเร่งการหลั่งกรดย่อยอาหารในกระเพาะอาหารได้ ดังนั้นหากดื่มกาแฟไปพร้อมๆ กับอาหารเช้าก็จะช่วยป้องกันเรื่องนี้ได้ 5.ไม่ดื่มกาแฟทุกค่ำคืน หลายคนเลือกดื่มกาแฟทุกครั้งที่ต้องอยู่อ่านหนังสือหรือทำงานตอนกลางคืนเพื่อจะได้ไม่ง่วง แม้ว่าฤทธิ์ของคาเฟอีนจะช่วยให้สมองตื่นตัวได้ชั่วคราว แต่ไม่ควรทำแบบนี้ตลอดเวลา เพราะสมองก็ยังคงต้องการการพักผ่อนที่แท้จริงมากกว่า 6.กินแคลเซียมทดแทน หากดื่มกาแฟเป็นประจำ ควรกินอาหารที่เป็นแหล่งของแคลเซียมให้มากขึ้น เช่น นม โยเกิร์ต ปลาเล็กปลาน้อย คะน้า บรอกโคลี เป็นต้น เพื่อทดแทนแคลเซียมที่สูญเสียไปกับปัสสาวะ และลดความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน หรืออาจปรับเปลี่ยนโดยการชงกาแฟใส่นมแทนครีมเทียม เป็นต้น 7.กินผักผลไม้ให้มากขึ้น กินผักผลไม้ให้เพียงพอทุกวัน เนื่องจากในกระบวนการคั่วเมล็ดกาแฟจะมีอนุมูลอิสระเกิดขึ้น วิตามินซี อี และเบต้าแคโรทีนในผักผลไม้ เช่น มะเขือเทศ แคร์รอต ผักใบเขียว ฝรั่ง ส้มเขียวหวาน จะช่วยกำจัดอนุมูลอิสระในร่างกายได้ 8.ดื่มน้ำมากๆ เพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำจากฤทธิ์ในการขับปัสสาวะของคาเฟอีน ท่านผู้ฟังครับ/คะ ดังนั้น เพื่อให้เกิดประโยชน์จากการดื่มกาแฟ หรือแก้ง่วง แนะนำให้ดื่มกาแฟครั้งละน้อยๆ เพื่อกระจายการดื่มออกไปในแต่ละครั้ง หรือแก้วเล็กๆ แต่สามารถทานได้เรื่อยๆ ค่อยๆ จิบไปทีละนิดเพราะกาแฟจะเริ่มออกฤทธิ์หลังจากดื่มไปแล้ว 15 นาที และการดื่มแบบนี้ก็จะช่วยให้ร่างกายของเราตื่นตัวได้ยาวนานกว่าการดื่มทีเดียวครั้งล่ะมากๆ แต่ข้อสำคัญให้ปริมาณของคาเฟอีนรวมกันแล้วไม่เกิน 300 มิลลิกรัมต่อวันจะดีที่สุด ครับ/ค่ะ จบบทความประจำวัน เรื่อง “ดื่มกาแฟอย่างไรให้ได้ประโยชน์ ไม่เป็นโทษต่อร่างกาย” เรียบเรียงโดย อรัญญา ชมชื่น / เตชินท์ มัชฌันติกะ นำเสนอ ท่านผู้ฟังที่สนใจบทความดังกล่าว สามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย radiothailand.prd.go.th หรือติดต่อได้ที่ส่วนกระจายเสียงในประเทศ โทรศัพท์ 0 2277 3804 ในวันและเวลาราชการ ที่มา : มูลนิธิหมอชาวบ้าน


ไฟล์เอกสารประกอบ
27 ม.ค. 66 ดื่มกาแฟอย่างไรให้ได้ประโยชน์ ไม่เป็นโทษต่อร่างกาย.pdf |

Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar