บทความประจำวัน วันนี้เสนอเรื่อง “4 พฤติกรรมสุขภาพ สร้างเยาวชนไทยแข็งแรง” ท่านผู้ฟังครับ/คะ เด็กและเยาวชนไทยเป็นทรัพยากรที่สำคัญของประเทศ ซึ่งการที่จะพัฒนาประเทศให้มีความเจริญยั่งยืนจำเป็นต้องพัฒนาเด็กให้มีความพร้อมในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านสุขภาพอนามัย ทั้งนี้ จากรายงานข้อมูลภาวะโภชนาการของกระทรวงสาธารณสุข ปี 2566 พบว่า เด็กอายุ 6-14 ปี มีภาวะเริ่มอ้วนและอ้วน ร้อยละ 13.0 และเด็กอายุ 15-18 ปี มีภาวะเริ่มอ้วนและอ้วน ร้อยละ 16.9 ซึ่งเกินกว่าค่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ไม่เกิน ร้อยละ 12.0 ครับ/ค่ะ และจากข้อมูลในปี 2538-2557 พบว่า เด็กและเยาวชนไทยติด 1 ใน 3 ของอาเซียนที่มีภาวะน้ำหนักเกิน และมีภาวะเริ่มอ้วนและอ้วนเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า อีกทั้ง 1 ใน 2 ของเด็กอายุ 12 ปี ดื่มเครื่องดื่มรสหวานและน้ำอัดลมมากกว่า 2 ครั้งต่อวัน และ 1 ใน 3 ของเด็กและเยาวชนไทยกินขนมถุงเป็นประจำทุกวันมากกว่า 2 ครั้ง นอกจากนี้ สถานการณ์ในปี 2565 ยังพบว่า เด็กและเยาวชน อายุ 5-17 ปี มีกิจกรรมทางกายเพียงพอลดลง เหลือเพียงร้อยละ 16.1 (เป้าหมายคือ ร้อยละ 40) รวมทั้งมีพฤติกรรมเนือยนิ่งเพิ่มสูงขึ้น 15.16 ชั่วโมงต่อวัน (เป้าหมายคือไม่เกิน 13 ชั่วโมงต่อวัน) ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพเด็ก และอาจนำไปสู่โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง อาทิ โรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวานได้อีกด้วย ทางด้านกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จึงสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนไทยมีพฤติกรรมด้านสุขภาพที่ดี 4 ด้าน ดังต่อไปนี้ 1) ด้านอาหารให้ถูกหลักโภชนาการ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งเด็กอายุ 6–14 ปี ควรได้รับพลังงานเฉลี่ย 1,600 กิโลแคลอรี โดยในแต่ละวันควรกินข้าวหรือแป้ง จำนวน 8 ทัพพี เนื้อสัตว์ จำนวน 6 ช้อนโต๊ะ ผักจำนวน 12 ช้อนโต๊ะ นม 2 แก้ว และให้มีผลไม้ 6–8 ชิ้นพอดีคำทุกมื้อ 2) ลดหวาน มัน เค็ม หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูป เช่น ไส้กรอก ลูกชิ้น รวมทั้งเลี่ยงอาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน อาหารแช่แข็งพร้อมทาน ควบคุมการซื้อขนมกรุบกรอบ เครื่องดื่มรสหวานจัด น้ำอัดลม ชานมไข่มุก และจัดเตรียมนมรสจืด และผลไม้ที่เด็ก ๆ ชอบไว้ในตู้เย็นแทน และให้ดื่มน้ำสะอาด 6–8 แก้วต่อวัน 3) ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนอายุ 6-17 ปี มีกิจกรรมทางกาย โดยส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนมีการเคลื่อนไหวส่วนต่าง ๆ ของร่างกายให้มากขึ้น มีกิจกรรมทางกายในระดับปานกลางถึงหนัก หรือจนรู้สึกเหนื่อย เฉลี่ยอย่างน้อยวันละ 60 นาที ทุกวัน (สะสมต่อเนื่อง 10 นาทีขึ้นไป) เช่น เต้นแอโรบิก วิ่ง ปั่นจักรยาน กระโดดเชือก กระโดดตบ ซิทอัพ ดันพื้น แพลงค์กิ้ง ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ทำงานบ้าน งานสวน เพื่อเสริมสร้างการเจริญเติมโตที่สมวัย มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และยังลดการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในอนาคต นอกจากนี้ การออกกำลังกายจะช่วยพัฒนาระบบกล้ามเนื้อ กระดูก ข้อต่อ หัวใจ ปอด ให้แข็งแรง รวมไปถึงการสร้างภูมิคุ้มกัน และป้องกันโรคอ้วนในเด็ก และยังช่วยในเรื่องการเรียนรู้ ความจำ มีสมาธิดีขึ้น มีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ จิตใจแจ่มใส ช่วยผ่อนคลายความเครียด 4) ส่งเสริมการนอนหลับให้เพียงพอในเด็กและเยาวชน อายุ 6-13 ปี ควรนอนหลับวันละ 9-11 ชั่วโมง และอายุ 14-17 ปี ควรนอนหลับวันละ 8-10 ชั่วโมง จะทำให้เด็กและเยาวชนมีสุขภาพร่างกาย ที่แข็งแรง สูง สมส่วน ครับ/ค่ะ จบบทความประจำวัน เรื่อง “4 พฤติกรรมสุขภาพ สร้างเยาวชนไทยแข็งแรง” เรียบเรียงโดย บุญมา ศรีหมาด / เตชินท์ มัชฌันติกะ ท่านผู้ฟังที่สนใจบทความดังกล่าว สามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย radiothailand.prd.go.th หรือติดต่อได้ที่ส่วนกระจายเสียงในประเทศ โทรศัพท์ 0 2277 3804 ในวันและเวลาราชการ ที่มา : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข