น้ำตาลเทียม หากบริโภคมากไปก็เกิดผลกระทบกับร่างกาย

บทความประจำวัน วันนี้เสนอเรื่อง “น้ำตาลเทียม หากบริโภคมากไปก็เกิดผลกระทบกับร่างกาย” ท่านผู้ฟังครับ/คะ ปัจจุบันอาหารบางชนิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องดื่มน้ำอัดลม มักเลี่ยงการใช้น้ำตาล โดยใช้ สารให้ความหวานแทนน้ำตาล หรือ “แอสปาแตม” (Aspartame) ซึ่งแม้จะเป็นสารให้ความหวานแทน แต่หากบริโภคมากไปก็เสี่ยงอันตรายกับร่างกายได้เช่นกัน ครับ/ค่ะ ล่าสุด องค์การอนามัยโลก (WHO) เตรียมประกาศว่าสารให้ความหวานแทนน้ำตาล “แอสปาแตม” (Aspartame) เป็นหนึ่งในสารก่อมะเร็ง ซึ่งข่าวดังกล่าวสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบการดื่มเครื่องดื่มแบบไม่มีน้ำตาลหรือน้ำตาล 0% เพื่อต้องการควบคุมน้ำหนักไม่ให้ได้รับพลังงานจากน้ำตาลเพิ่มแต่ยังมีรสชาติหวาน ทั้งนี้ กรมอนามัยได้ให้ความเข้าใจเกี่ยวกับน้ำตาลให้ถูกต้องว่า น้ำตาลจัดเป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่ง เป็นสารอาหารที่ให้พลังงาน น้ำตาลธรรมชาติที่ใช้ในปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบขึ้นกับวัตถุดิบและกรรมวิธีที่ผลิต ทั้งน้ำตาลทราย น้ำตาลกรวด น้ำตาลโตนด น้ำผึ้ง น้ำผลไม้ และน้ำเชื่อม เป็นต้น ส่วนน้ำตาลเทียม เป็นสารที่ผลิตขึ้นมาเพื่อแต่งเติมรสชาติหวานให้กับอาหารและเครื่องดื่มแทนน้ำตาลธรรมชาติ มีทั้งแบบที่ให้พลังงานและไม่ให้พลังงาน นิยมใช้ในผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลและพลังงาน เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวานและผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก โดยสารให้ความหวานที่นิยมใช้กัน ได้แก่ แอสพาร์เทม แซ็กคาริน แอซีซัลเฟม โพแทสเซียม ซูคราโลส นีโอแทม และแม้ว่าจะเป็นน้ำตาลธรรมชาติหรือน้ำตาลเทียม ควรกินในปริมาณที่เหมาะสม หากกินในปริมาณที่มากเกินไปก็จะส่งผลกระทบกับร่างกายได้ การกินน้ำตาลธรรมชาติมากเกินไปจะส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง มีภาวะน้ำหนักเกิน เสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน เป็นต้น หรือหากบริโภคน้ำตาลเทียมเป็นประจำ ลิ้นจะคุ้นกับรสหวานที่มากเกินไป อาจจะทำให้ติดรสหวานและไม่สามารถควบคุมอาหารการกินได้ นอกจากนี้ ไม่แนะนำให้ใช้สารให้ความหวาน ในเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 2 ปี ส่วนหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตรใช้ได้ในปริมาณที่น้อยที่สุดหรือจำกัดการใช้ นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยพบว่า แม้สารให้ความหวานจะมีแคลอรีต่ำ แต่ส่งผลให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ เพราะกระตุ้นให้เกิดการผลิตเซลล์ไขมันมากขึ้น ท่านผู้ฟังครับ/คะ การบริโภคความหวานให้พอดีกับร่างกาย ไม่ควรกินเกินร้อยละ 10 ของพลังงานที่ร่างกายได้รับต่อวัน โดยเด็กไม่ควรกินน้ำตาลเกิน วันละ 4 ช้อนชา สำหรับผู้ใหญ่ไม่ควรกินน้ำตาลเกินวันละ 6 ช้อนชา และควรจำกัดการกินสารให้ความหวานแทนน้ำตาลอย่างแอสปาร์แทม เลือกกินน้ำตาลจากธรรมชาติหรือน้ำตาลจากผลไม้สด เพราะมีประโยชน์และให้คุณค่าทางโภชนาการ แต่ไม่ควรรับประทานผลไม้ที่มีรสหวานจัดมากเกินไป ควรเลือกผลไม้หวานน้อย เช่น กล้วย แอปเปิล ส้ม ฝรั่ง แตงโม พร้อมทั้งการออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อสุขภาพที่ดีนั่นเอง ครับ/ค่ะ จบบทความประจำวัน เรื่อง “น้ำตาลเทียม หากบริโภคมากไปก็เกิดผลกระทบกับร่างกาย” เรียบเรียงโดย อานนท์ นันตสุคนธ์ / เตชินท์ มัชฌันติกะ นำเสนอ ท่านผู้ฟังที่สนใจบทความดังกล่าว สามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย radiothailand.prd.go.th หรือติดต่อได้ที่ส่วนกระจายเสียงในประเทศ โทรศัพท์ 0 2277 3804 ในวันและเวลาราชการ ที่มา : กรมอนามัย


ไฟล์เอกสารประกอบ
14 ก.ย. 66 เรื่อง น้ำตาลเทียม หากบริโภคมากไปก็เกิดผลกระทบกับร่างกาย.pdf |

Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar