บทความประจำวัน วันนี้เสนอเรื่อง “การเดินทางครั้งสุดท้ายของ Moon เจ้าวาฬหลังค่อมแห่งน่านน้ำแคนาดา” ท่านผู้ฟังครับ/คะ เมื่อปี ค.ศ. 2020 นักวิจัยและนักสำรวจวาฬได้พบกับแม่วาฬหลังค่อม ซึ่งกำลังว่ายน้ำพร้อมกับลูกวาฬในเขตน่านน้ำแคนาดา โดยพวกเขาได้ตั้งชื่อแก่แม่วาฬตัวนี้ว่า Moon (มูน) ที่แปลว่า ดวงจันทร์ ครับ/ค่ะ ในเดือนกันยายน 2022 มูลนิธิปลาวาฬแปซิฟิก ได้พบมูนอีกครั้งในบริเวณนอกชายฝั่งบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา ในสภาพที่ช่วงล่างของมูนคดงอเป็นรูปตัว S อย่างชัดเจน พวกเขาพบว่ามูนมีสุขภาพทรุดโทรมและได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงที่กระดูกสันหลัง คาดว่าเกิดจากการถูกเรือชนจนกระดูกหัก และเนื่องจากมูนอยู่ในมหาสมุทร การเข้าช่วยเหลือจึงเป็นไปไม่ได้ โดยในทุกปี เมื่อเริ่มเข้าสู่หน้าหนาววาฬจะอพยพไปยังน่านน้ำที่อุ่นขึ้น เช่น เม็กซิโก ฮาวาย ซึ่งที่นั่นพวกมันจะผสมพันธุ์และให้กำเนิดลูก และแม้ว่ามูนมีการบาดเจ็บ แต่ก็ยังว่ายอพยพจากแคนาดาไปยังหมู่เกาะฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา เหมือนที่เคยทำเป็นประจำทุกปี มูนเดินทางครั้งสุดท้ายเป็นระยะทางเกือบ 3,000 ไมล์ จากการบาดเจ็บสาหัส ทำให้ต้องใช้ครีบในการเดินทาง เนื่องจากหางเป็นอัมพาตไม่สามารถขยับส่วนหางมาช่วยขับเคลื่อนร่างกายให้พุ่งไปข้างหน้าได้ มูนใช้เวลาเกือบ 3 เดือนในการเดินทางอพยพในครั้งนี้ โดยนักวิจัยพบมูนที่น่านน้ำนอกเกาะเมาวี หมู่เกาะฮาวาย การเดินทางที่ยาวนานและเจ็บปวดในครั้งนี้ ทำให้มูนผอมลงและมีเหาวาฬเกาะตามตัวเต็มไปหมด ทีมนักวิจัยดีใจที่มูนอพยพได้สำเร็จ แต่พวกเขารู้ดีว่านี่เป็นการเดินทางครั้งสุดท้ายของมูน มูนไม่มีโอกาสได้กลับไปแคนาดาอีก และกำลังจะตายอยู่ที่นี่ ในน่านน้ำที่อบอุ่นแห่งนี้ และยิ่งมูนจากไปเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งทรมานน้อยเท่านั้น ท่านผู้ฟังครับ/คะ ในแต่ละปีมีวาฬทั่วโลกเสียชีวิตจากการชนกับเรือมากถึง 20,000 ตัว (ข้อมูลจาก BC Whales) ความทุกข์ทรมานทั้งหมดของมูนเกิดจากผลกระทบที่มาจากมนุษย์ มูนได้แสดงความแข็งแกร่งครั้งสุดท้ายเท่าที่วาฬตัวหนึ่งจะมาสารถแสดงให้โลกเห็น ดังนั้นถึงเวลาแล้ว ที่เราควรให้ความใส่ใจกับสิ่งแวดล้อม และตระหนักถึงผลกระทบต่อธรรมชาติและสัตว์ร่วมโลกของเรา อันเป็นผลมาจากการกระทำของมนุษย์ ครับ/ค่ะ จบบทความประจำวัน เรื่อง “การเดินทางครั้งสุดท้ายของ Moon เจ้าวาฬหลังค่อมแห่งน่านน้ำแคนาดา” เรียบเรียงโดย ซัลวาตี อาแวโซ๊ะ / เตชินท์ มัชฌันติกะ ท่านผู้ฟังที่สนใจบทความดังกล่าว สามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย radiothailand.prd.go.th หรือติดต่อได้ที่ส่วนกระจายเสียงในประเทศ โทรศัพท์ 0 2277 3804 ในวันและเวลาราชการ ที่มา: www.mgronline.com